Friday, September 28, 2007

วัดเทพธิดาราม

เรื่องบางเรื่อง ก็ยากจะหาคำอธิบาย วันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๕๐ พี่เล็กกับฉันได้เดินทางไปทำธุระที่วัดราชนัดดา แต่มาจอดรถไว้ที่วัดเทพธิดาราม เมื่อทำธุระที่วัดราชนัดดาเสร็จเรียบร้อย กลับไม่ได้หาโอกาสเดินเที่ยวชมสถาปัตยกรรม หรือไหว้พระที่วัดราชนัดดา (ที่มีโลหะปราสาท) แต่เมื่อเดินกลับมายังวัดเทพธิดาราม เห็นสถาปัตยกรรมสมัยรัชกาลที่ ๓ ที่สวยงามมาก จึงได้แวะเข้าไปไหว้พระในพระอุโบสถ


วัดเทพธิดารามนี้ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โปรดให้สร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๓๗๙ เพื่อเฉลิมพระเกียรติแด่ พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าวิลาส กรมหมื่นอัปสรสุดาเทพ สำหรับพระอุโบสถวัดเทพธิดาราม ก็เหมือนกับพระอุโบสถวัดอื่นๆ ที่สร้างในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่หน้าบันจะประดับด้วยชามกระเบื้องเป็นลวดลายดอกไม้ ไม่มีช่อฟ้า ใบระกา ถือเป็นเอกลักษณ์ของการสร้างวัดในรัชสมัยนั้น ในพระอุโบสถมีพระพุทธปฏิมาประธาน สร้างด้วยหินสีขาวบริสุทธิ์ ปางมารวิชัย ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน ได้ถวายพระนามพระพุทธรูปว่า "พระพุทธเทววิลาส" ประดิษฐานอยู่บนบุษบก มีพระพุทธรูปทรงเครื่องมหาจักรพรรดิ์ ปางห้ามสมุทรประดิษฐานอยู่สองข้างของบุษบก บุษบกนั้นประดับด้วยกระจก ลวดลายละเอียดประณีตบรรจงมาก คงเป็นฝีมือของช่างในราชสำนัก และสะท้อนถึงความศรัทธา และความร่มเย็นของบ้านเมืองในยุคนั้น ที่ทำให้ช่างมีเวลามาออกแบบบุษบก และรังสรรค์งานอันประณีตนี้ได้

ด้านขวาของบุษบก มีพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ประดิษฐานอยู่ ส่วนด้านซ้าย เป็นพระรูปวาด พระเจ้าลูกเธอ กรมหมื่นอัปสรสุดาเทพ



ออกจากพระอุโบสถแล้วเดินชมสถาปัตยกรรมรอบๆ วัด พบว่าบริเวณวัดดูเสื่อมโทรม มีวัสดุกองอยู่อย่างไม่เป็นระเบียบ ไม่พบพระเณร ทำให้รู้สึกสลดใจที่สถาปัตยกรรมอันทรงคุณค่าอย่างนี้ถูกละเลยจากความสนใจของหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งประชาชน พี่เล็กบอกว่าวัดนี้ไม่ได้ถูกจัดอยู่ใน ๙ วัด ของเกาะรัตนโกสินทร์ที่ การท่องเที่ยวฯ ได้เชิญชวนประชาชนให้มาเที่ยวชม