Tuesday, April 6, 2010

ฉลาดทำใจในยามการเมือง ขัดแย้ง แบ่งฝักฝ่าย

ฉลาดทำใจในยามการเมืองขัดแย้ง แบ่งฝักฝ่าย

พระไพศาล วิสาโล
เมื่อมีความขัดแย้งทางการเมืองโดยเฉพาะในระดับประเทศ ประชาชนทั่วไปรวมทั้งเราด้วยมักถูกดึงเข้าไปเป็นฝักฝ่าย ทำให้ความขัดแย้งขยายตัว และลุกลามไปถึงที่ทำงานและในบ้าน ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้มีผลประโยชน์ใด ๆ มาเกี่ยวข้อง หากเป็นเพราะความคิดเห็นต่างกัน หรือสนับสนุนคนละฝ่ายกันเท่านั้น

ในสภาพเช่นนี้พึงระลึกไว้ว่า คนเรานั้นเห็นต่างกันได้ อาจเป็นเพราะได้ข้อมูลต่างกัน หรือ มีเกณฑ์วัดความดีและความสำเร็จต่างกันก็ได้ แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ข้อสำคัญก็คือคนที่เห็นต่างจากเราไม่ใช่คนเลว คนดีก็มีสิทธิเห็นต่างจากเราได้ ดังนั้นจึงไม่ควรเห็นเขาเป็นศัตรู

ควรมองคนให้กว้างขึ้น แล้วเราจะพบว่า แม้เขาจะคิดต่างจากเราในเรื่องนี้ แต่ก็มีหลายเรื่องที่คิดเหมือนกับเรา จึงไม่ควรมองเห็นเขาเป็นศัตรูเพียงเพราะว่าคิดต่างจากเราในเรื่องนี้หรือ เรื่องนั้น จะว่าไปแล้วคนเราทุกคนมีความเหมือนมากกว่าความต่าง ถ้าเราไปติดอยู่กับความต่าง เราจะมองกันเป็นศัตรูได้ง่าย แล้วความโกรธเกลียดจะเผาลนจิตใจเรา แต่ถ้าเรามองไปที่ความเหมือนให้มากๆ จะพบว่าเราเป็นเพื่อนกัน รักชาติบ้านเมืองเหมือนกัน

นอกจากมองกว้างแล้ว ควรมองให้ไกลด้วย วันนี้เรากับเขาอาจอยู่คนละมุม แต่พรุ่งนี้เรากับเขาอาจร่วมมือร่วมใจกันในเรื่องใดเรื่องหนึ่งก็ได้ ดังคนไทยทั้งประเทศได้แสดงให้เห็นเมื่อครั้งร่วมใจกู้ภัยสึนามิมาแล้ว เพราะ ฉะนั้นแม้จะขัดแย้งกัน แต่อย่าทะเลาะกันจนมองหน้าไม่ติด เพราะวันพรุ่งนี้เราอาจจำเป็นต้องมาจับมือกันก็ได้

ที่สำคัญก็คือคนที่เห็นต่างจากเราบางคนก็เป็นคู่รัก เป็นญาติพี่น้อง หรือมิตรสหาย เราจะต้องมีชีวิตร่วมกันไปอีกนาน ดังนั้นจะทะเลาะวิวาทกันไปทำไม พึงตระหนักว่าประเด็นการเมืองที่ขัดแย้งกันนั้น ส่วนใหญ่เมื่อเวลาผ่านไปไม่นานก็สร่างซาไป ไม่กลายเป็นเรื่องใหญ่อีกต่อไป แต่หากเราทะเลาะกันจนมองหน้าไม่ติดแล้ว ความบาดหมางจะกินใจทุกฝ่ายไปอีกนาน จึงควรพิจารณาว่าคุ้มหรือไม่ที่จะต้องวิวาทกันในเรื่องการเมืองที่หาความแน่ นอนไม่ได้

ประการสุดท้ายคือ . แผ่เมตตาให้คู่กรณีที่อยู่คนละฝ่ายกับเราบ้าง พึงตระหนักว่า ความโกรธเกลียดไม่เป็นผลดีแก่จิตใจของเรา ทุกครั้งที่เรารู้สึกโกรธเกลียด มีจิตปรารถนาร้ายต่อใคร คนแรกที่ถูกทำร้ายคือเรา ความโกรธเกลียดนั้นทำร้ายเราก่อนที่จะไปทำร้ายคนอื่นเสียอีก เพียงแค่คิดถึงเขาก่อนนอน ก็อาจทำให้เรานอนไม่หลับ เกิดความเครียด ความดันโลหิตขึ้น อย่าปล่อยให้ความโกรธเกลียดบั่นทอนจิตใจของเรา ขับไล่ความโกรธเกลียดไปด้วยการแผ่เมตตา

ทุกคืนก่อนนอน ลองแผ่เมตตาให้เขาด้วยความปรารถนาดี ขอให้เขาหลุดพ้นจากวังวนแห่งความทุกข์ ขอให้ความโลภ โกรธ หลงอย่าได้เกาะกุมจิตใจเขาเลย ขอให้เขามีสัมมาทิฏฐิและมีโอกาสเข้าถึงความสงบสุขที่ลึกซึ้งในชีวิต เวลาอ่านหนังสือพิมพ์ ฟังวิทยุ หรือดูโทรทัศน์พบเห็นภาพของคู่ตรงข้ามที่เราไม่ชอบใจ แผ่เมตตาทำนองนี้ให้เขาด้วยก็ดี อย่างน้อยใจเราจะได้ไม่เร่าร้อนหรือถูกเผาลนด้วยความโกรธเกลียด

ไม่มีทางลัดสู่ความสงบ ยอมเสียเวลาดีกว่าเสียเลือดเนื้อ
วันที่ 06 เมษายน พ.ศ. 2553 มติชนออนไลน์

No comments: